- สาระน่ารู้
รู้จัก "เมาส์เพื่อสุขภาพ" (Ergonomic Mouse) ดีจริงหรือแค่ชวนเชื่อ?
by Utech 2556 Views
Ergonomic mouse คืออะไร?
หลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินเมาส์อีกรูปแบบหนึ่ง มีชื่อว่า Ergonomic mouse หรือคำคุ้นหูที่มักเรียกกันว่า เมาส์เพื่อสุขภาพ ซึ่งสิ่งที่แตกต่างจากเมาส์ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด คือ ดีไซน์ที่แปลกตา เป็นลักษณะเมาส์ทรงสูงที่ดูยังไง ๆ ก็ใช้งานยากเย็นเหลือเกิน แต่ในวันนี้ถ้าคุณได้รู้จักมันแล้ว คุณอาจเปลี่ยนใจอยากลองใช้มันมากขึ้นก็ได้นะ
Ergonomic mouse เป็นเมาส์ที่ออกแบบมาให้เข้ากับสรีระการทำงานของร่างกายมนุษย์ สามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว และเมื่อใช้งานไปนาน ๆ จะช่วยลดความเมื่อยล้าได้ดีเมื่อเทียบกับเมาส์แบบทั่วไป จึงไม่แปลกว่าทำไมเราจึงเรียกมันว่า เมาส์เพื่อสุขภาพ

ทำไมจึงควรเลือกใช้เมาส์เพื่อสุขภาพ
หากถามว่าเหตุใดเมาส์เพื่อสุขภาพจึงดีกว่าเมาส์ทั่วไป อันนี้เราคงต้องทำความเข้าใจกับกลไกการทำงานของข้อมือมนุษย์เสียก่อน โดยเวลาเราใช้งานเมาส์ทั่วไป ข้อมือของเราจะอยู่ใน “คว่ำฝ่ามือ” เพื่อประกบเข้ากับตัวเมาส์ ซึ่งการคว่ำฝ่ามือหรือการบิดข้อมือเข้าด้านในนี้ เราเรียกว่า Pronation จากภาพจะเห็นว่า Pronation จะทำให้กระดูกส่วนแขนเกิดการบิดหมุนทับซ้อน ตามมาด้วยการหดตัวของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการบิดข้อมือแบบ Pronation
ผลที่ตามมา คือ กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของกระดูกให้บิดข้อมือหรือคว่ำฝ่ามือนี้ จะเกิดการหดตัวอยู่ตลอดเวลา ยิ่งถ้าคุณเป็นสายเกมตะลุยด่านที่นั่งเล่นทั้งวัน กล้ามเนื้อเหล่านี้ก็จะหดตัวนานขึ้นไปด้วย และการหดตัวของกล้ามเนื้อเท่ากับว่ากล้ามเนื้อกำลังทำงาน ตามมาด้วยอาการอ่อนล้าในที่สุด

นี่จึงเป็นที่มาของการออกแบบเมาส์เพื่อสุขภาพให้มีทรงสูง แทนที่จะเป็นทรงแบนราบกับพื้นผิว และหยิบจับในลักษณะการ “สอดมือเข้าไป” ให้อยู่ในแนวตั้งฉากกับพื้น แทนที่จะเป็นการคว่ำฝ่ามือเพื่อจับเมาส์ เพราะการวางมือในแนวตั้งฉากนี้จะทำให้กระดูกแขนของเราไม่ไขว้กัน, ไม่เกิดการบิดข้อมือ และไม่ทำให้กล้ามเนื้อต้องหดตัวตลอดเวลาที่ใช้งาน ดังนั้น ในทางทฤษฎีเมาส์เพื่อสุขภาพทรงสูงเช่นนี้ จะช่วยลดความเมื่อยล้าในระหว่างการใช้งานได้ดีกว่า
เพื่อน ๆ สามารถทดสอบได้ด้วยตนเองที่บ้านนะครับ ลองคว่ำมือให้อยู่ในลักษณะการจับเมาส์ทั่วไป แล้วลองผายมือให้อยู่ในแนวตั้งฉากกับพื้นเลียนแบบการจับเมาส์เพื่อสุขภาพแนวตั้ง จะรู้สึกได้ถึงความผ่อนคลายที่เกิดขึ้นมาทันทีหลังผายมือออก เป็นเพราะกล้ามเนื้อที่ถูกใช้ในขณะคว่ำมือได้คลายออกด้วยนั่นเอง

อย่างนี้ต้องนำงานวิจัยมาชน !!
สินค้าในกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่มักจะมีการทดลอง, ทดสอบ หรือวิจัยมาจากห้องปฏิบัติการกันมาบ้างแล้ว ว่าสามารถช่วยได้จริงตามที่อ้าง แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อเพื่อขายของแพงเท่านั้น ดังนั้น เดี๋ยวจะพาไปดูงานวิจัยกันเลยเขาว่าอย่างไรบ้าง
เอาล่ะ สำหรับงานวิจัยที่หยิบยกมาอ้างนี้ คือ Benefits of alternative computer mouse designs ซึ่งเป็นงานวิจัยแบบ Systematic review ที่จะรวบรวมงานวิจัยแบบ Controlled trials (งานวิจัยทดลองเปรียบเทียบ) มาวิเคราะห์และประเมินผล ทำให้งานวิจัยนี้เหมาะที่จะนำมาใช้เป็นพยานว่า สรุปแล้วเมาส์เพื่อสุขภาพช่วยได้จริงหรือแค่ชวนเชื่อ
งานวิจัยที่รวบรวมมาจะมีอยู่ด้วยกัน 1,626 ฉบับ ก่อนที่จะถูกคัดเลือกนำงานวิจัยที่มีความเกี่ยวข้องกับการประเมินประโยชน์ของเมาส์เพื่อสุขภาพ จนเหลือเพียง 17 ฉบับ จากนั้นจึงนำผลงลัพธ์จากงานวิจัยที่คัดมาได้มาเปรียบเทียบว่า เมาส์สุขภาพดีกว่าเมาส์ทั่วไปจริงหรือไม่
ผลปรากฏว่า เมาส์ที่ออกแบบมาเพื่อสุขภาพช่วยลดความเมื่อยล้าของข้อมือได้ เมื่อต้องใช้งานติดต่อเป็นระยะเวลานาน และในทางทฤษฎีอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดกล้ามเนื้อบาดเจ็บหรือพังผืดในกล้ามเนื้อในระยะยาวได้

ถึงกระนั้น เมาส์แบบทั่วไปจะมีข้อดีในเรื่องความสะดวกในการใช้งาน เพราะลักษณะของการวางมือจะเป็นที่คุ้นเคยมากกว่า แต่ในกรณีที่ผู้ใช้ได้ฝึกใช้เมาส์เพื่อสุขภาพจนชินแล้ว ประสิทธิภาพในการใช้งาน, ความแม่นยำ และความคล่องตัวจะไม่ต่างไปจากเมาส์แบบทั่วไปเลย
ปัจจุบันยังมีงานวิจัยเพิ่มเติมอยู่เรื่อย ๆ ที่เกี่ยวกับเมาส์เพื่อสุขภาพ ซึ่งไอเดียของตัวเมาส์นั้นไม่มีอะไรมากเลย หากเมาส์นั้นสามารถทำให้ผู้ใช้พลิกข้อมือน้อยลง อยู่ในมุมตั้งฉากกับแนวราบมากขึ้น ก็จะช่วยลดแรงกระทำต่อกล้ามเนื้อข้อมือลงได้มากเลยทีเดียว
ประสบการณ์จากการใช้งานของผู้เขียน
สำหรับตัวผมได้มีประสบการณ์ใช้งานเมาส์เพื่อสุขภาพมาราว ๆ เกือบ 6 เดือนแล้ว โดยสาเหตุที่เปลี่ยนมาใช้เมาส์ชนิดนี้ เพราะต้องพิมพ์งานและใช้เมาส์บ่อย ๆ หรือไม่ก็เล่นเกมเป็นเวลานาน ๆ จนเริ่มรู้สึกปวดข้อมือบ่อยขึ้นหลังจากทำงาน กระทั่งได้ลองอ่านงานวิจัยเรื่องเมาส์เพื่อสุขภาพอย่างจริงจังนี่เอง จึงได้ทดลองซื้อมาใช้งาน
ในช่วงแรกความคล่องตัวอาจน้อยกว่าเมาส์ทั่วไป เพราะยังไม่คุ้นชินกับการใช้งานสักเท่าไร จะเลื่อนเคอเซอร์ทีหนึ่งมันก็ติดขัดไปหมด แต่พอเริ่มปรับตัวได้แล้วรู้สึกว่ามันใช้งานได้ดีไม่ต่างจากเมาส์ทั่วไป แถมยังรู้สึกปวดข้อมือหลังใช้งานเป็นเวลานาน “น้อยกว่า” เมาส์ทั่วไปเสียอีก (พูดจริง ไม่สะกดจิตเลยครับ)

บทสรุป: เมาส์สุขภาพน่าซื้อหรือไม่?
หากถามว่าควรซื้อมาใช้งานหรือไม่ สำหรับคนที่ทำงานออฟฟิศที่ต้องทำงานเอกสารบ่อย ๆ ผมคิดว่าเมาส์เพื่อสุขภาพเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลย อย่างน้อยก็ลดหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคในกลุ่มออฟฟิศซินโดรมไปได้อย่างหนึ่ง
แต่สำหรับสายเกมมิ่งอาจจะต้องพิจารณาให้ดี เพราะเมาส์เพื่อสุขภาพส่วนมากจะมีค่า DPI ต่ำกว่าเมาส์เกมมิ่งในระดับหนึ่ง อีกทั้งฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เอื้อประโยชน์ต่อการเล่นเกมก็จะมีน้อยกว่าด้วย แม้ว่าตัวผมเองจะเป็นคนที่ชอบเล่นเกม แต่เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วจะทำงานบ่อยกว่า และปุ่มมาโครที่ใช้งานจริง ๆ ก็ต้องเพียงแค่ 2 ปุ่ม (ซึ่งเมาส์เพื่อสุขภาพบางแบรนด์จะมีปุ่มเสริมเหล่านี้เตรียมไว้ให้) จึงได้เลือกเมาส์เพื่อสุขภาพมาใช้งานแทน
อีกประเด็นหนึ่ง คือ ราคา ซึ่งเมาส์สุขภาพส่วนมากจะมีราคาเฉลี่ยที่สูงกว่าเมาส์รูปทรงทั่วไป อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับเมาส์เกมมิ่งจากแบรนด์ดังแล้ว ราคาไม่ได้ทิ้งห่างกันเท่าไรนัก
เพราะฉะนั้น หากตัดประเด็นเรื่องราคาไป ผมจะขอแนะนำไว้ ดังนี้
- พนักงานออฟฟิศที่ทำงานเอกสารบ่อย ๆ ใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน >> ควรซื้อ เพื่ออนาคตอันสดใส
- เกมเมอร์ >> อาจไม่เหมาะเท่าไร ยกเว้นว่าอยากลองใช้งาน เพื่อสัมผัสประสบการณ์ปวดข้อมือน้อยลง เปลี่ยนบรรยากาศแบบใหม่บ้าง ลองจัดดูไม่เสียหายครับ
เดี๋ยวในบทความถัดไปผมจะพาไปดูว่ามีเมาส์เพื่อสุขภาพรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง เผื่อใครกำลังมองหาเมาส์ดี ๆ สักตัวไว้ใช้งานยาว ๆ