5 เมาส์เกมมิ่งคัดสรร ประจำปี 2023 ในงบประมาณ ±3,000 บาท

 

สวัสดีครับ ในบทความนี้ ผมได้รวบรวม เมาส์เกมมิ่ง เมาส์สำหรับเล่นเกม ทั้งแบบที่เป็น เมาส์ไร้สาย และ เมาส์มีสาย ซึ่งผมจะเน้นไปสำหรับสายเล่นเกม แต่บางชิ้นผมลองเอามาใช้ทำงานแล้วก็ไม่เลวเลยครับ

ซึ่งเมาส์ทั้ง 5 ตัวนี้ที่ผมแนะนำ รับรองเลยว่าไม่ได้หยิบเมาส์ที่ช่วงราคา 3,000 บาท มาแปะอย่างเดียว แต่ผมคัดมาแล้วจริง ๆ ว่ามีข้อดีอะไรน่าสนใจ แล้วทำไมในงบนี้ถึงควรเลือกเมาส์ตัวนี้ และมันเหมาะกับคุณยังไง เดี๋ยวตามไปอ่านกันเลยนะครับกับ 5 เมาส์เกมมิ่ง งบราว 3000 ที่เราคัดมาแล้วว่า คุ้มค่า ดีจริง ในปี 2023 ครับ

 

เมาส์เกมมิ่ง ที่แนะนำในบทความนี้
●    Loga Garunda Pro Wireless 
●    Zowie EC2
●    Glorious Model O/O-
●    Glorious Model D/D-
●    Pulsar Xlite V2 / Mini

 

 

สเปค
●    Sensor Pixart 3370 
●    Switch Kailh GM 8.0 
●    Mouse Feet PTFE 
●    DPI 19,000 
●    1000 Polling rate 
●    มีไฟ RGB 
●    มี Software ปรับแต่งเมาส์

จุดเด่น
●    เป็นเมาส์ไร้สาย
●    เมาส์ฟีทกว้าง
●    น้ำหนักเบาเพียง 65 g 
●    สามารถเปลี่ยนฝาหลังเมาส์ได้ให้เข้ากับสรีระมือ
●    สามารถซื้อเปลือกเมาส์ที่เป็นอุปกร์เสริมเพื่อเปลี่ยนสีได้
●    เป็นเมาส์ 2 มือ ใช้ได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา

 

ทำไมถึงต้องเลือก Loga Guruda Pro Wireless?

ทั้งเรื่องเซนเซอร์จาก Pixart สวิชต์จาก Kailh GM 8.0 มีน้ำหนักเบาเพียง 65 กรัม รวมถึงเป็นเมาส์ที่มีทรงสมมาตรที่สามารถใช้ได้ทั้ง 2 มือ ซึ่งผมมองว่านี้เป็นมาตราฐานของเมาส์เกมมิ่งส่วนใหญ่ ที่จะใส่เซนเซอร์ที่ดี สวิชต์ที่ดี ฟังชั่นครบที่เมาส์เกมมิ่งควรจะมี ในราคาที่จับต้องได้ และในจุดที่ทำให้สามารถไว้วางใจได้ระดับหนึ่งว่า เมาส์ตัวนี้จะเป็น เมาส์เกมมิ่ง ที่ดีแน่นอน  

นอกเหนือจากสเปคและความสามารถแล้ว ที่ผมหยิบเมาส์ตัวนี้มาแนะนำก็คือ เขาสามารถเปลี่ยน Cover Mouse หรือ เปลือกเมาส์ด้านบนได้อีก ให้มีความสูง ต่ำ เพื่อให้เข้าสรีระมือของเรามากขึ้น และซื้อเพิ่มได้อีกด้วย Loga Mouse Cover Set Garuda Pro Wireless ทำให้เราสามารถเปลี่ยนสีได้อีกหลายรูปแบบเลยครับ 

 

แล้วเมาส์ตัวนี้เหมาะกับใคร?

ซึ่งใครที่ชอบเมาส์ไร้สาย ทรงสมมาตร และมีน้ำหนักเบา สเปคดี ๆ ในเมาส์ ราคาไม่เกิน 3000 และยังมีลูกเล่นที่สามารถปรับแต่งเมาส์ได้อีก ผมเชียร์ตัวนี้เลย ครบเครื่องจริง ๆ ถ้าคุณเป็นคนชอบ เมาส์มีไฟ RGB ผมว่า Glorious Model D, Glorious Model O ทำไฟได้สวยกว่าครับ  แต่สำหรับผมผมเองเล่นเกมบ้าง แต่ทำงานสะส่วนใหญ่ เอามาลองใช้แล้วชอบมาก เมาส์ตัวนี้เลยผมเลยป้ายยาเป็นพิเศษครับ ซึ่งถ้าหากอธิบายได้ไม่ละเอียดพอ สำหรับเมาส์ตัวนี้เราได้ทำคลิปรีวิวแบบละเอียดแล้วไว้ดูเพื่อประกอบการตัดสินใจได้นะครับ รีวิว LOGA Garuda Pro Wireless เมาส์ไทยระดับโปรที่ทีมอีสปอร์ตนำไปคว้ารางวัลได้มากที่สุดแห่งปี 2022!

 

 

สเปค
●    เซนเซอร์ PAW 3360
●    น้ำหนัก 73 g
●    5 ปุ่ม
●    DPI 400/800/1600/3200
●    Polling Rate 125Hz / 500Hz / 1000Hz
●    เชื่อมต่อแบบมีสาย 

จุดเด่น
●    Plug and Play สามารถปรับแต่งค่าบนตัวเมาส์
●    เมาส์ฟีทใหญ่
●    ดีไซน์เข้ากับสรีระเมาส์มือขวาที่ดี
●    นักแข่งส่วนใหญ่ให้ความสนใจและเลือกใช้

 

ทำไมต้องเลือก Zowie EC2  เมาส์นี้ เหมาะกับใคร ?
เป็นเมาส์ที่จะไม่แนะนำคงไม่ได้ครับ Zowie  เป็นแบรนด์สุดคลาสสิคที่นักแข่งส่วนใหญ่แนะนำและเลือกใช้ เอาจริง ๆ แล้วเมาส์ตัวนี้ อาจจะไม่เหมาะกับใครหลาย ๆ คน ด้วยหน้าตาที่ธรรมดามาก ๆ ไม่มีลูกเล่น ไม่มีไฟ แถมมีสายอีก คือโดยรวมมันล่าหลังไปสักนิด เมื่อเทียบกับเมาส์รุ่นใหม่ ๆ ในตอนนี้ 

แต่สิ่งที่น่าสนใจของ Zowie EC2 ที่ผมแนะนำนั้นคือ มันเป็น เมาส์เกมมิ่ง ที่ราคาไม่สูง แต่ Performace (ประสิทธิภาพ) ทั้งตัวเซนเซอร์ สวิชต์ที่ไม่ได้แพ้ไปกว่าเมาส์ราคราคาแพง ๆ เลย และเขายังดีไซน์ให้เป็นเมาส์ที่เข้ากับสรีระของมือให้มากที่สุด สำหรับเมาส์มือขวา เราจะรู้สึกเต็มมือ คล่องตัวมาก ๆ ครับ 

 

แล้วเมาส์ตัวนี้เหมาะกับใคร?

ใครที่เป็นสายเล่นเกมจริงจัง โดยเฉพาะเกมยิงปืน  ไม่ได้อยากได้ไฟวิบวับ และอาจจะย้ายเครื่องเล่นบ่อย ๆ โดยไม่ต้องลงไดร์เวอร์ให้ยุ่งยาก เราก็จะได้ Setting เมาส์เดิมที่เราเคยตั้งไว้ Zowie EC2 เมาส์เกมมิ่ง ตัวนี้จะตอบโจทย์มาก ๆ ครับ ซึ่งถ้าหากใครอยากได้เมาส์ยี่ห้อนี้ แต่เป็นรูปแบบไร้สาย ก็อาจจะต้องเพิ่มเงินนิดหน่อยครับผม ซึ่งหากใครสนใจบทความเกี่ยวกับเมาส์ที่ใช้เล่นเกมที่ดี ผมได้เขียนบทความไว้สำหรับเมาส์ที่ใช้เล่นเกม สามารถไปอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ครับผม

 

 

สเปค
●    เซนเซอร์ PMW 3360
●    Switch Omron
●    น้ำหนัก 67 g สำหรับ Model O ผิว Matte
●    น้ำหนัก 68 g สำหรับ Model O ผิว Glossy
●    น้ำหนัก 58 g สำหรับ Model O- ผิว Matte
●    น้ำหนัก 59 g สำหรับ Model O- ผิว Glossy
●    5 ปุ่ม
●    DPI 12,000 
●    Polling Rate 1000Hz
●    มีไฟ RGB 

จุดเด่น
●    ดีไซน์สวย
●    ใช้ได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา
●    น้ำหนักเบา และเบามากสำหรับรุ่น O-
●    มีให้เลือกถึง 2 พื้นผิว

 

ทำไมต้องเลือก Glorious Model O/O-  เมาส์นี้ เหมาะกับใคร ?
สำหรับ เมาส์ Glorious Model O/O- เมาส์เกมมิ่งแบรนด์ดังที่ใครสายเล่นเกมก็ต้องรู้จักแบรนด์นี้ครับ ซึ่งทั้งรุ่น O/O- นั้นความแตกต่างคือขนาดเท่านั้นที่ใครมือเล็กก็เลือก O- ใครมือใหญ่หน่อยก็เลือก O ธรรมดาครับ เรื่องสเปคไม่ต้องพูดถึงครับ เรียกได้ว่ามาตรฐานเมาส์เกมมิ่งที่ทั่วไปจะใส่มากันเลย ดังนั้นสิ่งที่ผมสนใจและหยิบมาแนะนำก็คือ ดีไซน์สวย ลวดลายสวย วางตำแหน่งไฟได้สวยรวมถึงเลือกโหมดไฟได้ด้วยผ่านซอฟต์แวร์ และน้ำหนักไม่ได้หนักเกินไปและเบาเกินไป 

แล้วเมาส์ตัวนี้เหมาะกับใคร ใครที่เป็นแฟน Glorious อยู่แล้วคงจะตัดสินใจได้ไม่ยากครับ และใครที่ชอบเมาส์ที่ไฟสวย ดีไซน์ดี สามารถใช้ได้ทั้งสองมือ แนะนำเลยครับตัวนี้ ครบเครื่องไม่แพ้กับตัวอื่นเลย แต่หากอยากไปตัวไร้สาย Glorious Model O- Wireless  อาจจะต้องเพิ่มเงินกันนิดหน่อยครับ ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,500 บาท ครับผม ซึ่งถ้างบไม่ถึง Glorious Model O/O-  ก็ดีไม่แพ้กันครับ

 

 

สเปค
●    เซนเซอร์ PMW 3360
●    Switch Omron
●    น้ำหนัก 67 g สำหรับ Model O ผิว Matte
●    น้ำหนัก 68 g สำหรับ Model O ผิว Glossy
●    น้ำหนัก 58 g สำหรับ Model O- ผิว Matte
●    น้ำหนัก 59 g สำหรับ Model O- ผิว Glossy
●    5 ปุ่ม
●    DPI 12,000 
●    Polling Rate 1000Hz
●    มีไฟ RGB 

จุดเด่น
●    ดีไซน์สวย
●    ดีไซน์ให้เข้ากับสรีระสำหรับเมาส์มือขวา
●    น้ำหนักเบา และเบามากสำหรับรุ่น O-
●    มีให้เลือกถึง 2 พื้นผิว

 

ทำไมต้องเลือก Glorious Model D/D-  เมาส์นี้ เหมาะกับใคร ?
สำหรับ Glorious Model D/D- ไม่ได้ต่างไปจาก Glorious Model O/O- เลยครับ ในด้านสเปค ของแถม ลักษณะโดยรวม เหมือนกันแทบทุกอย่างเลยครับ แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ Model D/D- ดีไซน์ให้เข้ากับสรีระเมาส์มือขวาโดยเฉพาะครับ ใครที่ถนัดมือขวาน่าจะเหมาะมาก ๆ 

แล้วเมาส์ตัวนี้เหมาะกับใคร ก็เหมือนเดิมครับ คนรักไฟ RGB ที่อยากได้เมาส์ดี ๆ สักตัว แล้วใช้เมาส์มือขวา ตัวนี้ตอบโจทย์น่าจะตอบโจทย์นะครับ ส่วนใครที่ใช้เมาส์มือซ้ายหรือถนัดเมาส์ทรงสมมาตรก็อาจจะเลือกใช้ Model O/O- ครับผม

 

 

สเปค
●    เซนเซอร์ PAW 3370
●    Kailh GM 8.0 Switch
●    น้ำหนัก 55 g สำหรับตัว Mini 
●    น้ำหนัก 59 g สำหรับขนาดปกติ
●    5 ปุ่ม
●    DPI 50 - 20,000 
●    Polling Rate 1000Hz
●    เชื่อมต่อแบบไร้สาย

จุดเด่น
●    ดีไซน์สวยและเข้ากับสรีระเมาส์มือขวาที่ดี
●    น้ำหนักเบากว่ารุ่นอื่น ๆ 
●    เป็นเมาส์ไร้สาย
●    เมาส์ฟีทกว้าง

 

ทำไมต้องเลือก Pulsar Xlite V2 เมาส์นี้ เหมาะกับใคร ?
นี่เป็นเมาส์ตัวสุดท้ายที่อยากแนะนำ และอยากให้รู้จัก หลังจากเปิดตัวมาและได้รับกระแสตอบรับที่ดี และผมได้ลองใช้แล้วรู้สึกเลยว่า เมาส์เขาเบาจริง ๆ เราอาจจะได้เห็นสเปคคร่าว ๆ และความสามารถต่าง ๆ นี่เป็นเมาส์ที่มีสเปคเทพเลย แล้วชูความสามารถด้านน้ำหนักที่เบากว่าตัวอื่นเยอะมาก ๆ ครับ  และเราก็มีคลิปรีวิวแล้วด้วยไปดูกันได้ที่นี่เลยครับ รีวิวจัดเต็ม! เมาส์เกมมิ่ง Pusar Xlite V2 VS Garuda Pro VS Glorious Model D/O VS G Pro X Superlight เราได้เปรียบเทียบเมาส์ตัวอื่น ๆ และพูดถึง Pulsar Xlite V2 ด้วยครับ

 

แล้วเมาส์ตัวนี้เหมาะกับใคร?

สำหรับคนที่ชอบเมาส์ที่น้ำหนักเบามาก จริง ๆ แล้วมีเมาส์รุ่นอื่น ที่น้ำหนักประมาณนี้ แต่ยังไม่เบาเท่านี้ แต่จะราคาแพงกว่านี้หลายพันบาท ผมจึงหยิบตัวนี้มาแนะนำ ที่ราคา 3,290 บาท ในช่วงลดราคาอาจจะอยู่ที่ประมาณ 2,800 บาทด้วยครับ สำหรับคำที่ชอบเมาส์น้ำหนักเบา ผมบอกเลยว่าตัวนี้ตอบโจทย์สุด ๆ ในราคาช่วงนี้ครับ

 

 

ก็ประมาณนี้นะครับ สำหรับ เมาส์เกมมิ่ง ที่ผมมมาแนะนำในบทความนี้ ในเหตุผลส่วนตัวของผมนั้นผมไม่ได้จะมาตัดสินให้ใครหรือเมาส์ตัวไหนไม่ดีนะครับ ผมเพียงยกตัวอย่างการใช้งานและความชอบของผมเพื่อให้ได้เมาส์สำหรับตัวผมเองครับ 

ส่วนใครชอบแบบไหน เหมาะกับแบบไหน ก็หวังว่าบทความนี้จะสามารถช่วยประกอบการได้ตัดสินใจได้ไม่มากก็น้อยนะครับ  หากมีข้อมูลผิดพลาดประการใด ทางพูดเขียนขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ สำหรับบทความหน้าจะมาพูดเรื่องอะไรอีก ฝากติดตาม UTECH เราด้วยนะครับ สำหรับบทความนี้ สวัสดีครับ